สำหรับธุรกิจขายของออนไลน์ ความรวดเร็วและความสะดวกในการจัดส่งสินค้า คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้า และเป็นแรงผลักดันให้เกิดการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในวิธีการจัดส่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน คือการจัดส่งแบบ Drop Off ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมการจัดการออร์เดอร์ได้อย่างคล่องตัวและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น
Drop Off คืออะไร ?
Drop Off คือรูปแบบการจัดส่งพัสดุที่ผู้ส่งเป็นผู้นำสินค้าหรือกล่องพัสดุไปฝากส่ง ณ จุดรับที่บริษัทขนส่งกำหนดไว้ (Drop Off Point) โดยไม่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่เข้ามารับพัสดุถึงที่ (Pick Up) ซึ่งช่วยลดข้อจำกัดด้านเวลา เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดส่ง และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ขายออนไลน์ที่ต้องการส่งพัสดุด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบ Drop Off พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการขนาดเล็กถึงกลาง ที่ต้องการความคล่องตัวในการจัดส่งสินค้า โดยเฉพาะร้านขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งลูกค้ามีความคาดหวังสูงในเรื่องความรวดเร็วของการจัดส่ง
ทั้งนี้ จุด Drop Off สามารถพบได้ในหลายรูปแบบ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน สาขาของบริษัทขนส่ง หรือจุดบริการชุมชนต่าง ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถหาจุดส่งที่ใกล้ที่สุดและสะดวกที่สุดสำหรับตนเองได้อย่างง่ายดาย
เปรียบเทียบความแตกต่างของการส่งพัสดุแบบ Drop Off กับ Pick Up
สำหรับผู้ประกอบการที่ยังลังเล ไม่แน่ใจว่าควรเลือกส่งพัสดุแบบ Drop Off กับ Pick Up ดี เราจะมาเปรียบเทียบความแตกต่าง เพื่อช่วยให้คุณสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
หัวข้อ | Drop Off | Pick Up |
ความคล่องตัว | สูง สามารถจัดส่งได้ตามเวลาที่สะดวก | จำกัด ต้องตามรอบเข้ารับพัสดุของบริการขนส่ง |
เวลาดำเนินการ | เลือกส่งได้ตามเวลาที่จุด Drop Off เปิดทำการ | ต้องรอเจ้าหน้าที่เข้ามารับพัสดุตามรอบ |
ความสะดวก | เลือกไปส่งเองได้หลายจุด Drop Off | ผู้บริการขนส่งเข้ามารับถึงร้านค้า หรือหน้าบ้าน |
ปริมาณพัสดุ | เหมาะกับพัสดุจำนวนน้อย-ปานกลาง | เหมาะกับพัสดุจำนวนมาก |
ค่าบริการ | มักไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม | บางกรณีมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม |
อย่างไรก็ดี การเลือกระหว่าง Drop Off และ Pick Up ควรพิจารณาจากปริมาณออร์เดอร์ต่อวัน ตำแหน่งที่ตั้งของร้านค้า และความต้องการในการควบคุมเวลาจัดส่ง หากคุณเป็นผู้ขายออนไลน์รายเล็กที่มีออร์เดอร์ประมาณ 10-50 ชิ้นต่อวัน Drop Off จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและประหยัดกว่า

วิธีการส่งสินค้าแบบ Drop Off
การส่งสินค้าแบบ Drop Off สามารถทำได้ง่ายในไม่กี่ขั้นตอน ซึ่งการเข้าใจกระบวนการที่ถูกต้องจะช่วยให้การจัดส่งเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
- แพ็กสินค้าให้เรียบร้อย พร้อมติดใบปะหน้าพัสดุ ตรวจสอบความถูกต้องของที่อยู่และข้อมูลผู้รับ รวมถึงใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความเสียหาย
- เลือกบริษัทขนส่งที่ต้องการ ผ่านระบบของ Marketplace หรือแอปพลิเคชันขนส่ง เปรียบเทียบราคาและบริการของแต่ละบริษัท
- เลือกจุด Drop Off ใกล้บ้าน ตรวจสอบเวลาทำการให้แน่ชัด ศึกษาข้อกำหนดการรับพัสดุของแต่ละจุด เช่น น้ำหนักสูงสุด ขนาดพัสดุ
- นำพัสดุไปส่ง ที่จุด Drop Off จะมีเจ้าหน้าที่รับของและออกใบเสร็จยืนยัน โดยควรเก็บใบเสร็จไว้เป็นหลักฐานการส่ง
- ติดตามสถานะพัสดุ ได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบออนไลน์ ช่วยให้ผู้ประกอบการและลูกค้าสามารถติดตามพัสดุได้อย่างสะดวก
ประโยชน์ของการส่งพัสดุแบบ Drop Off สำหรับร้านค้าออนไลน์
การใช้ระบบ Drop Off มีประโยชน์มากมายที่ช่วยยกระดับธุรกิจออนไลน์ สามารถแบ่งเป็นหลัก ๆ ดังนี้
- ควบคุมเวลาในการจัดส่งได้มากขึ้น เนื่องจากผู้ขายสามารถบริหารเวลาส่งสินค้าได้ด้วยตนเอง สามารถส่งของได้ทันทีหลังจากได้รับออร์เดอร์ ช่วยให้สินค้าถึงลูกค้าเร็วขึ้น 1-2 วัน
- ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จากบริการ Drop Off ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมต้นทุนค่าจัดส่งสินค้าาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดความเสี่ยงของความล่าช้า หากรถขนส่งล่าช้าหรือมีปัญหาด้านการประสานงาน การ Drop Off เป็นทางเลือกที่ทำให้พัสดุเข้าสู่ระบบได้เร็วขึ้น
- เหมาะกับผู้เริ่มต้นและร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งมีออร์เดอร์ต่อวันไม่มาก สามารถจัดการการส่งเองได้โดยไม่ยุ่งยาก
- ส่งของเร็ว ลูกค้าประทับใจ ทั้งยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และเพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำจากลูกค้าเดิม
เพิ่มประสิทธิภาพอีกขั้นด้วยบริการคลังสินค้า Fulfilment จาก Scale Up Fulfilment
แม้ว่าการ Drop Off จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้คล่องตัวขึ้น แต่หากคุณต้องการ โฟกัสกับการขายสินค้าโดยไม่ต้องจัดการด้านโลจิสติกส์เอง การใช้บริการคลังสินค้า Fulfilment คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด
Scale Up Fulfilment ให้บริการจัดเก็บ แพ็ก และจัดส่งสินค้าแบบครบวงจร พร้อมระบบจัดการออร์เดอร์ที่เชื่อมต่อกับทุกช่องทางขายออนไลน์ ทั้ง Shopee, Lazada, TikTok, และเว็บไซต์ร้านค้า ช่วยให้เจ้าของแบรนด์สามารถบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ โดยไม่ต้องเสียเวลากับงานหลังบ้าน
บริการจาก Scale Up Fulfilment
เรามีบริการหลากหลายและครอบคลุมการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ดังนี้
- รับสินค้าเข้าคลัง พร้อมตรวจเช็กจำนวน
- แพ็กสินค้าอย่างเป็นระบบ
- จัดส่งสินค้ารวดเร็วทั้ง Drop Off และ Pick Up
- มีระบบติดตามสถานะและสรุปรายงานอัตโนมัติ
- ทีมงานมืออาชีพ พร้อมให้บริการเสมือนเป็นพนักงานของแบรนด์
พร้อมให้ Scale Up Fulfilment ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจของคุณแล้วหรือยัง ?
หากคุณต้องการขยายธุรกิจโดยไม่ต้องแบกรับภาระงานด้านจัดส่ง มั่นใจในความพร้อมของ Scale Up Fulfilment ที่จะดูแลสินค้าทุกชิ้นของคุณให้ถึงมือลูกค้าอย่างตรงเวลาและมืออาชีพ
ติดต่อเราเพื่อเริ่มต้นธถริกิจวันนี้
📞 098-991-9356 | 📲 LINE: @scaleup
🌐https://www.scaleup-thailand.com/

Scale Up ผู้นำด้านบริการ Fulfilment ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่ดูแลครอบคลุมทุกความต้องการด้านคลังสินค้าสำหรับธุรกิจ E-commerce ทั้งระบบ OMS (Order Management System) ระบบ WMS (Warehouse Management System) และอีกมากมาย ด้วยบริการครบวงจรที่ตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ รวมถึงผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจและจัดการออร์เดอร์ เพื่อเสริมยอดขาย พร้อมดูแลร้านค้าออนไลน์ให้ธุรกิจเติบโต