บทความ

กระแสความนิยมในสินค้าแฟชั่นมือสองเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เปิดโอกาสให้หลายคนสามารถสร้างรายได้เสริมหรือต่อยอดเป็นธุรกิจหลักได้ไม่ยาก แต่การจะประสบความสำเร็จนั้นต้องอาศัยการวางแผนที่ดี วันนี้ Scale Up Fulfillment จะมาแชร์คู่มือสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นขายเสื้อผ้ามือสองออนไลน์ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงเทคนิคที่ควรรู้กันในทุกแง่มุม อยากเริ่มต้นขายเสื้อผ้ามือสองออนไลน์ ต้องทำอย่างไร การเริ่มต้นขายของออนไลน์ โดยเฉพาะขายเสื้อผ้าออนไลน์นั้นมีเสน่ห์ตรงที่ใช้เงินลงทุนไม่สูงและมีความยืดหยุ่น แต่การเตรียมตัวที่ดีในช่วงแรกนั้นมีสำคัญที่จะทำให้ร้านของคุณเติบโตได้อย่างราบรื่น เราลองมาดู 4 ขั้นตอนที่จะช่วยให้การเริ่มต้นขายเสื้อผ้ามือสองออนไลน์ของคุณเป็นไปอย่างมีทิศทางกัน 1. สำรวจตลาด กำหนดสไตล์ และประเมินเงินทุน ก่อนอื่นต้องตอบให้ได้ว่าเราจะขายเสื้อผ้าแนวไหนให้ใคร การหา Niche หรือสไตล์ที่ชัดเจน เช่น เสื้อวินเทจ เสื้อแบรนด์เนม หรือเสื้อไซซ์พิเศษ จะช่วยให้ร้านของคุณมีจุดยืนที่แตกต่าง จากนั้นประเมินเงินทุนเริ่มต้นสำหรับค่าสินค้า ค่าอุปกรณ์ และค่าการตลาดเบื้องต้น 2. วางแผนหาแหล่งสินค้าคุณภาพ แหล่งที่มาของสินค้าคือหัวใจสำคัญของธุรกิจนี้ คุณสามารถเริ่มต้นจากเสื้อผ้าในตู้ของตัวเอง หรือวางแผนหาแหล่งสินค้าอย่างจริงจัง เช่น การรับซื้อจากคนรู้จัก การเดินหาจากตลาดขายส่ง หรือการประมูลสินค้าออนไลน์ การมีแหล่งสินค้าที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้คุณมีสินค้าคุณภาพดีมาเติมที่ร้านได้อย่างสม่ำเสมอ 3. เลือกช่องทางขายที่เหมาะสม แพลตฟอร์มที่แตกต่างกันก็เหมาะกับกลุ่มลูกค้าและสไตล์การขายที่ต่างกันไป การเริ่มต้นขายเสื้อผ้ามือสองออนไลน์ควรเลือกช่องทางที่เหมาะสม เช่น Facebook/Instagram เหมาะกับการสร้างแบรนด์ สร้างชุมชน และ Live สด ในขณะที่ Shopee/Lazada เหมาะกับการเข้าถึงลูกค้าจำนวนมาก […]

การแข่งขันในตลาดขายเสื้อผ้าออนไลน์ที่สูงขึ้น ทำให้การจัดการร้านค้าอย่างเป็นระบบกลายเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ หลายธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วมักเผชิญความท้าทายด้านการจัดการสต๊อก และคำสั่งซื้อที่ล้นมือ วันนี้ Scale Up Fulfillment จะมาแชร์ทุกสิ่งที่ควรรู้ ตั้งแต่การวางแผนเริ่มต้น ไปจนถึงเทคนิคเพิ่มยอดขายให้เติบโตอย่างมั่นคงกัน เป็นมือใหม่เริ่มต้นขายเสื้อผ้าออนไลน์ ต้องรู้อะไรบ้าง การเริ่มต้นขายของออนไลน์อาจดูเหมือนมีเรื่องที่ต้องทำมากมาย แต่หากวางแผนอย่างเป็นระบบตั้งแต่แรก ก็จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีทิศทางที่ชัดเจนและเติบโตได้อย่างราบรื่น การวางแผนที่ดีคือสิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจขายเสื้อผ้าออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว โดยสิ่งที่ต้องรู้คิดไว้หลัก ๆ มีดังนี้ กำหนดกลุ่มเป้าหมายและสไตล์ร้าน ก่อนจะเริ่มขายเสื้อผ้าออนไลน์ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการตอบให้ได้ว่า “เราจะขายให้ใคร” และ “จะขายสไตล์ไหน” การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น วัยรุ่น วัยทำงาน หรือสายสตรีท และกำหนดสไตล์ของร้านให้มีเอกลักษณ์ จะช่วยให้การเลือกสินค้า การทำการตลาด และการสื่อสารกับลูกค้าตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น คำนวณเงินทุนและตั้งงบประมาณ การวางแผนการเงินเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ ควรประเมินเงินทุนทั้งหมดและแบ่งงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ชัดเจน เช่น ค่าสินค้าล็อตแรก ค่าการตลาดและยิงแอด ค่าแพลตฟอร์ม และค่าอุปกรณ์ต่างๆ การมีงบประมาณที่ชัดเจนจะช่วยควบคุมต้นทุน และป้องกันปัญหาสภาพคล่องทางการเงินเมื่อเริ่มขายเสื้อผ้าออนไลน์ หาแหล่งรับสินค้าหรือโรงงานผลิต คุณภาพของสินค้าคือสิ่งที่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้า คุณต้องตัดสินใจว่าจะรับสินค้าจากร้านขายส่ง หรือจะลงทุนผลิตแบรนด์ของตัวเอง ควรศึกษาและเปรียบเทียบซัพพลายเออร์หลาย ๆ แห่ง เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ การออกแบบตรงใจ […]

เมื่อธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้น การจัดการหลังบ้านที่รวดเร็วและแม่นยำคือหัวใจสำคัญที่สร้างความได้เปรียบ หลายธุรกิจที่ขยายตัวอย่างก้าวกระโดดมักพบความท้าทายด้านการจัดการสต๊อกและจัดส่ง ศูนย์กระจายสินค้า จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่เข้ามาแก้ปัญหานี้ วันนี้ Scale Up Fulfillment จะมาอธิบายว่า DC คืออะไร และมีความสำคัญต่อธุรกิจของคุณอย่างไร ศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Center) คืออะไร ศูนย์กระจายสินค้า หรือ Distribution Center คือ ศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่ทำหน้าที่มากกว่าการจัดเก็บสินค้า โดยเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการรับสินค้าจากผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์หลายแห่ง นำมาผ่านกระบวนการจัดการอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การคัดแยก จัดการออเดอร์ บรรจุหีบห่อ ไปจนถึงการจัดส่งสู่ปลายทางอย่างรวดเร็ว เน้นการหมุนเวียนสินค้าแบบ “เข้าเร็ว-ออกเร็ว” เพื่อให้ทันต่อความต้องการของตลาด ศูนย์กระจายสินค้าแตกต่างจากคลังสินค้า (Warehouse) อย่างไร หลายคนอาจเข้าใจว่าทั้งสองอย่างนี้คือสิ่งเดียวกัน แต่ความจริงแล้วมีเป้าหมายการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งการเลือกใช้ให้ถูกประเภทจะส่งผลต่อต้นทุนของธุรกิจโดยตรง โดยมีความแตกต่าง ดังนี้ 4 หน้าที่หลักของศูนย์กระจายสินค้าในภาคธุรกิจ เบื้องหลังการทำงานที่รวดเร็วและเป็นระบบของศูนย์กระจายสินค้า ประกอบด้วย 4 กระบวนการหลักที่ทำงานประสานกันอย่างลงตัว เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคำสั่งซื้อจะถูกจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงมือลูกค้าปลายทาง ดังนี้ 1. การรับและตรวจสอบสินค้า (Receiving) นี่คือประตูบานแรกของศูนย์กระจายสินค้า ที่ไม่ใช่แค่การรับของลงจากรถ แต่เป็นกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของสินค้าที่เข้ามา ทั้งในด้านปริมาณ คุณภาพ และสภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าที่รับเข้าระบบตรงตามใบสั่งซื้อทุกประการ การบันทึกข้อมูลที่แม่นยำในขั้นตอนนี้จะช่วยลดความผิดพลาดในการจัดการสต๊อกระยะยาว 2. […]

เมื่อธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้น การจัดการด้านการจัดส่งที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพคือหัวใจสำคัญที่สร้างความได้เปรียบให้กับร้านค้าของคุณ หนึ่งในวิธีการส่งของที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์คุ้นเคยกันดีคือ “Drop Off” ซึ่งมีความสะดวกและยืดหยุ่นสูง วันนี้ Scale Up Fulfillment จะพาไปเจาะลึกว่าบริการ Drop Off คืออะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร และแตกต่างจากบริการ Pick Up อย่างไร เพื่อให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณที่สุด บริการ Drop Off คืออะไร บริการ Drop Off คือ รูปแบบการจัดส่งพัสดุที่ผู้ขายหรือเจ้าของร้านค้านำพัสดุที่แพ็กเรียบร้อยแล้วไปส่งเอง ณ จุดให้บริการ (Drop-off Point) ของบริษัทขนส่งต่าง ๆ เช่น สาขาของขนส่ง ร้านสะดวกซื้อ หรือจุดบริการที่เป็นพาร์ทเนอร์ วิธีนี้ช่วยให้ผู้ส่งสามารถเลือกเวลาและสถานที่ที่สะดวกได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องรอรถขนส่งมารับถึงที่ ทำให้การส่งของมีความคล่องตัวสูง เปรียบเทียบชัด ๆ ส่งพัสดุแบบ Drop Off แตกต่างจาก Pick Up อย่างไร เพื่อให้เห็นภาพความแตกต่างระหว่างสองบริการนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หลายคนจึงมักจะสงสัยว่าการส่งพัสดุแบบ Drop Off […]

การมีสินค้าที่ดีเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่การจะทำให้ธุรกิจเติบโตและทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องนั้นต้องอาศัยกลยุทธ์และเทคนิคการเพิ่มยอดขายที่เฉียบคม หลายครั้งที่เจ้าของธุรกิจต้องเผชิญกับยอดขายที่ไม่เป็นไปตามเป้า วันนี้ Scale Up Fulfillment จะมาเผย 10 เทคนิคที่จะช่วยเปลี่ยนธุรกิจคุณให้ทำกำไรได้ง่ายขึ้นมาฝากกัน 10 เทคนิคการเพิ่มยอดขายออนไลน์ให้โตไว ทำกำไรได้ไม่หยุด สำหรับธุรกิจ E-commerce การเพิ่มยอดขายต้องมองให้ครบทุกมิติ ตั้งแต่การดึงดูดลูกค้าหน้าร้านไปจนถึงการจัดการหลังบ้านที่ดี นี่คือ 10 เทคนิคการเพิ่มยอดขายที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจของคุณ 1. สร้างคอนเทนต์คุณภาพสูง (รูปภาพ/วิดีโอ/Live สด) ในโลกออนไลน์ คอนเทนต์คือหน้าร้านของคุณ การลงทุนถ่ายรูปสินค้าให้สวยงาม คมชัด และทำวิดีโอรีวิวที่น่าสนใจ จะช่วยดึงดูดสายตาและทำให้สินค้าของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง การ Live สดก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการเพิ่มยอดขายที่ดี เพราะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและปิดการขายได้ทันที 2. ทำการตลาดบน Social Media ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย การเลือกใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่กลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่ และใช้เครื่องมือยิงโฆษณา (Targeted Ads) อย่างแม่นยำ จะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ ที่มีแนวโน้มจะสนใจสินค้าของคุณได้โดยตรง นับเป็นอีกเทคนิคการเพิ่มยอดขายที่ช่วยให้งบการตลาดทุกบาทคุ้มค่าที่สุด 3. สร้างจุดขายที่แตกต่าง (Unique Selling Point) ในตลาดออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูง […]

การขายของออนไลน์นอกจากจะต้องมีสินค้าคุณภาพดีและโปรโมชันที่ดีแล้ว ยังจำเป็นต้องมีช่องทางสื่อสารและเครื่องมือบริหารจัดการลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่ง LINE Official Account หรือ LINE OA คือเครื่องมือทรงพลังที่ออกแบบมาให้ผู้ประกอบการสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดและเป็นระบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความโปรโมชัน การตอบแชตอย่างรวดเร็ว หรือจัดการฐานลูกค้าให้เป็นระเบียบ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักว่า LINE OA คืออะไร วิธีใช้งาน ไปจนถึงเคล็ดลับการใช้ฟีเจอร์เด่น ๆ เพื่อยกระดับธุรกิจออนไลน์ของคุณให้เติบโตยิ่งกว่าเดิม LINE OA คืออะไร และทำไมผู้ประกอบการควรใช้ ? LINE OA คือ บัญชีธุรกิจอย่างเป็นทางการบนแอปพลิเคชัน LINE พัฒนาขึ้นมาเพื่อธุรกิจหรือองค์กรโดยเฉพาะ โดย LINE OA สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสารเพื่อทำการตลาดสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะ มีฟังก์ชันเสริมสำหรับการทำการตลาด รวมถึงช่วยให้ร้านค้าสามารถเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรงและมีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้บัญชีส่วนตัว ความแตกต่างระหว่าง LINE OA กับ LINE ปกติ ประโยชน์หลักของการมี LINE OA สำหรับธุรกิจออนไลน์ LINE OA ทำอะไรได้บ้าง : ฟีเจอร์สำคัญที่ควรรู้ สำหรับธุรกิจที่ยังไม่เคยมีการทำ […]

การขายของออนไลน์ในยุคนี้ไม่เพียงแข่งกันที่ราคาหรือคุณภาพของสินค้าเท่านั้น แต่ “ความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า” ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้ากับร้านค้าของคุณได้อย่างง่ายดาย ซึ่ง “Shopee ส่งด่วน” ถือเป็นบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการให้สินค้าถึงมือแบบรวดเร็วทันใจ และไม่ได้เป็นเพียงแค่การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า แต่ยังช่วยเพิ่มคะแนนความน่าเชื่อถือให้แก่ร้านค้าออนไลน์ของคุณได้อย่างมหาศาล รวมถึงทำให้ร้านของคุณโดดเด่นเหนือคู่แข่งได้ แต่การจะใช้บริการนี้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ขายจำเป็นต้องเข้าใจเงื่อนไขและข้อควรปฏิบัติอย่างละเอียด เพื่อให้ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างราบรื่น ดังนั้นเราจะพาไปเจาะลึกว่าบริการส่งด่วน Shopee คืออะไร มีวิธีใช้ และเงื่อนไขอย่างไรบ้าง ตลอดจนถึงเคล็ดลับเพิ่มยอดขายด้วยบริการนี้ ทำความรู้จัก Shopee ส่งด่วน (Express Delivery) Shopee ส่งด่วน หรือ Express Delivery คือบริการจัดส่งสินค้าที่ดำเนินการโดยไรเดอร์จาก ShopeeFood ทำให้ผู้ซื้อได้รับสินค้าเร็วกว่าการจัดส่งแบบปกติ (Standard Delivery) สำหรับใครที่สงสัยว่า ส่งด่วน Shopee กี่วันถึง คำตอบคือ คุณจะได้รับสินค้าภายใน 1–2 วันทำการ ในพื้นที่เขตเมืองใหญ่ และบางพื้นที่อาจได้รับเร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับระยะทางและเงื่อนไขของผู้ให้บริการขนส่ง แต่ที่เร็วกว่าบริการ Shopee ส่งด่วน ก็คือ บริการ Shopee ส่งทันที (Instant Delivery) […]

สำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าขนาดเล็ก หรือองค์กรขนาดใหญ่ การจัดการสต๊อกสินค้า รวมถึงการติดตามออเดอร์อย่างรวดเร็วและแม่นยำ คือหัวใจสำคัญของการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า แต่หลายครั้งที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับปัญหาจากการค้นหาสินค้าที่มีอยู่อย่างหลากหลาย ทำให้อาจหาของไม่เจอ หรือหยิบผิดสี ผิดไซซ์ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้ SKU (Stock Keeping Unit) ที่จะช่วยให้การจัดการสินค้าคงคลังในระบบ E-commerce เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด SKU คืออะไร ? เลข SKU คือ รหัสเฉพาะที่ผู้ขายหรือเจ้าของธุรกิจสร้างขึ้นเอง เพื่อใช้ระบุและจำแนกสินค้าแต่ละรายการในคลังสินค้า โดย SKU ไม่ใช่บาร์โค้ด (Barcode) ที่เป็นมาตรฐานสากล แต่เป็นรหัสภายในที่ออกแบบมาเพื่อการจัดการสต๊อกภายในร้านค้าตัวเองโดยเฉพาะ เพื่อให้ค้นหาสินค้าได้ง่ายขึ้น ลดโอกาสหยิบสินค้าผิด และช่วยติดตามสต๊อกได้อย่างแม่นยำ โดยทั่วไปแล้ว SKU จะประกอบไปด้วยตัวอักษรและตัวเลขที่สื่อถึงคุณลักษณะต่าง ๆ ของสินค้า เช่น ยกตัวอย่างการตั้งชื่อ SKU สินค้า : สมมติว่าต้องการตั้งชื่อ SKU ของเสื้อยืดชื่อแบรนด์ “MyBrand” สีดำ ไซซ์ M ล๊อตการผลิตแรก ก็อาจตั้ง SKU […]

ปัจจุบันแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจค้าขายออนไลน์ ซึ่งหนึ่งในแพลตฟอร์มที่น่าจับตามองคือ LINE SHOPPING ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการขายสินค้าได้สะดวกขึ้นผ่าน LINE Official Account ด้วยการเชื่อมต่อกับ LINE MyShop ทำให้สามารถจัดการร้านค้าออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น แต่ก่อนตัดสินใจใช้งาน ก็จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้แพลตฟอร์ม LINE SHOPPING คือทางเลือกที่จะมาช่วยตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจได้อย่างแท้จริง LINE SHOPPING คืออะไร ? LINE SHOPPING คือแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ค้าสามารถสร้างร้านค้าออนไลน์และขายสินค้าผ่าน LINE Official Account ได้โดยตรง โดยระบบนี้เชื่อมต่อกับ LINE MyShop ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับจัดการร้านค้าออนไลน์ที่พัฒนาโดย LINE สิ่งที่ทำให้ LINE SHOPPING โดดเด่นกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ คือการเชื่อมโยงกับ LINE Ecosystem ทั้งหมด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถช็อปปิง แชต และทำธุรกรรมได้ในแอปพลิเคชันเดียว โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เด่นที่ส่งเสริมการขาย ดังนี้ 1. ระบบแชตขายสินค้าแบบเรียลไทม์ LINE SHOPPING คือตัวช่วยที่ทำให้ร้านค้าสามารถพูดคุยกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ผ่านแชตที่ให้บริการโดย LINE […]

หลายคนเริ่มต้นธุรกิจจากการขายของออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์ม E-commerce ต่าง ๆ แต่สิ่งสำคัญที่หลายคนมักมองข้ามคือ การจดทะเบียนพาณิชย์ขายของออนไลน์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการไม่จดทะเบียนนั้นไม่เพียงทำให้เสี่ยงต่อการถูกปรับ แต่ยังขาดความน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้าอีกด้วย บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจว่าเปิดร้านออนไลน์ต้องจดทะเบียนอะไรบ้าง รวมถึงขั้นตอนการดำเนินการ เอกสารที่จำเป็น และคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อย เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์อย่างถูกต้องและมั่นใจ 1. การจดทะเบียนพาณิชย์คืออะไร ? การจดทะเบียนพาณิชย์ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า การจดทะเบียนการค้า แบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ พาณิชย์ธรรมดาสำหรับร้านค้าทั่วไป และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับธุรกิจ E-commerce โดยการจดทะเบียนพาณิชย์นั้นแตกต่างจากการจดทะเบียนบริษัท เนื่องจากมีรูปแบบที่เรียบง่ายและเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จึงเป็นสิ่งที่ธุรกิจออนไลน์ทุกประเภทต้องปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะขายผ่านช่องทางใดก็ตาม เพราะถือเป็นการให้ความคุ้มครองทางกฎหมายและสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจ 2. ขายของออนไลน์ ต้องจดทะเบียนอะไรบ้าง ? 2.1 ทะเบียนหลักที่ต้องจด การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (บังคับ) การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นข้อบังคับสำหรับทุกธุรกิจที่ขายผ่านออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์, Facebook, Instagram, TikTok, Shopee หรือ Lazada ด้วยค่าธรรมเนียมเพียง 50 บาท และต้องจดทะเบียนภายใน 30 วันหลังจากเริ่มธุรกิจ การจดทะเบียนร้านค้าออนไลน์นี้จะทำให้ธุรกิจของคุณได้รับการรับรองจากภาครัฐและสามารถดำเนินกิจการได้อย่างถูกต้อง การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม […]

เมื่อการขายสินค้าออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว หลายคนหันมาสนใจธุรกิจ E-commerce แต่กังวลเรื่องเงินทุนเริ่มต้น การลงทุนสต๊อกสินค้า และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้น Dropship จึงกลายเป็นคำตอบที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มขายของออนไลน์ไม่สต๊อกสินค้า แต่ก่อนจะตัดสินใจ ควรทำความเข้าใจทั้งข้อดีและข้อจำกัดอย่างรอบด้านกันก่อน Dropship คืออะไร ? Dropshipping คือ รูปแบบธุรกิจ E-commerce ที่ผู้ขายไม่จำเป็นต้องเก็บสต๊อกสินค้าไว้เอง แต่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างลูกค้าและซัพพลายเออร์ เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้า ผู้ขายจะส่งต่อคำสั่งซื้อไปยังซัพพลายเออร์ แล้วซัพพลายเออร์จะจัดส่งสินค้าไปให้ลูกค้าโดยตรง ความแตกต่างจากการขายปลีกแบบดั้งเดิมคือ ในการขายปกติผู้ขายต้องซื้อสินค้ามาเก็บสต๊อกก่อน จึงขายต่อให้ลูกค้า ส่วน Dropship ผู้ขายไม่ต้องถือสต๊อกสินค้าใด ๆ เลย กระบวนการทำงานของ Dropship ขั้นตอนการทำงานของ Dropship มีดังนี้ ตัวอย่างธุรกิจ Dropship ที่ประสบความสำเร็จ ธุรกิจ Dropship ที่ประสบความสำเร็จมักจะมีลักษณะเฉพาะ เช่น การเลือกสินค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche) การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และการให้บริการลูกค้าที่ดี ตัวอย่างธุรกิจ Dropship ที่ประสบความสำเร็จ คือ Gymshark แบรนด์เสื้อผ้าฟิตเนสมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ที่เริ่มต้นจากการ […]

การเลือกแหล่งสินค้าที่มีต้นทุนต่ำและคุณภาพเหมาะสม คือหัวใจสำคัญของธุรกิจออนไลน์ ซึ่งตอบโจทย์สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างกำไรอย่างยั่งยืน หนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมเสมอมา คือการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะ “จีน” ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายของสินค้าและราคาที่เข้าถึงง่าย  หากเป็นสมัยก่อน การจะดีลสินค้าก็อาจต้องผ่านมือหลายคน บางร้านถึงกับต้องบินไปดูสินค้าที่ประเทศต้นทางเพื่อสั่งกลับมาเอง แต่ปัจจุบัน ทุกอย่างง่ายขึ้นมากด้วยการมีแอปสั่งของจากจีน หรือเว็บสั่งของจากจีนที่ช่วยให้สามารถเลือกสินค้า เพื่อคำนวณต้นทุนและบริหารกระบวนการนำเข้าเองได้ง่ายขึ้น การสั่งสินค้าจากจีน ดีอย่างไร ? การนำเข้าสินค้าจากจีนได้รับความนิยมในหมู่ผู้ประกอบการไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีข้อได้เปรียบหลายประการที่สำคัญ เช่น สั่งของจากจีน เว็บไหนดี มีอะไรเด่นบ้าง ? เมื่อพูดถึงแอปสั่งของจากจีน หรือเว็บสั่งของจากจีนที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการ ส่วนใหญ่มี 5 แพลตฟอร์มยอดนิยมที่เจ้าของธุรกิจเลือกใช้ ได้แก่ 1. Taobao Taobao เป็นแพลตฟอร์มขายปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีสินค้าหลากหลายประเภทและราคาถูก เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการทดสอบตลาดด้วยการสั่งสินค้าในปริมาณที่ไม่เยอะมาก จุดเด่นของ Taobao คือมีร้านค้าจำนวนมากให้เลือกและระบบรีวิวที่ครอบคลุม ช่วยให้สามารถประเมินคุณภาพของสินค้าและความน่าเชื่อถือของร้านค้าได้ดี 2. Tmall Tmall เป็นแพลตฟอร์มสำหรับแบรนด์อย่างเป็นทางการและร้านค้าที่ผ่านการรับรองแล้ว สินค้าในนี้มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือสูงกว่า Taobao แต่ราคาอาจสูงกว่าเล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่เน้นคุณภาพและต้องการสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า 3. Alibaba Alibaba เป็นแพลตฟอร์ม B2B ที่เชื่อมต่อผู้ซื้อกับผู้ผลิตโดยตรง เหมาะสำหรับการสั่งซื้อในระดับล็อตใหญ่ […]