บทความ

เจาะลึก ! การตลาด Gen Z ทำอย่างไรให้โดนใจลูกค้ากลุ่มใหม่ ?

เผยแพร่โดย Scale Up Fulfilment Profileวันที่เผยแพร่ : 05/13/2025

ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้ Gen Z ได้กลายมาเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่แบรนด์และนักการตลาดในยุคดิจิทัลให้ความสนใจ จากพฤติกรรมที่เน้นการใช้เทคโนโลยี ชอบความรวดเร็ว และแสดงออกถึงตัวตนอย่างอิสระ การทำความเข้าใจพฤติกรรมและลักษณะคน Gen Z จึงกลายมาเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการและเพิ่มโอกาสทางการตลาด

Gen Z คือใคร ?

Gen Z หรือ Generation Z คือกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี 1995-2010 ซึ่งในปัจจุบันคนกลุ่มนี้จะมีอายุอยู่ในช่วง 15-30 ปี โดยเป็นกลุ่มประชากรที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและการสื่อสารในยุคดิจิทัล ทำให้มีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือออนไลน์ มองหาโซลูชันที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นพฤติกรรมการบริโภคและแนวคิดที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน

พฤติกรรมผู้บริโภคของ Gen Z

ในยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ Gen Z กลายมาเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลต่อการตลาดปัจจุบันอย่างมาก โดยมีลักษณะของคน Gen Z ที่ผู้ประกอบการควรรู้เพื่อนำมาปรับใช้ในการวางแผนการตลาด ได้แก่

พึ่งพาเทคโนโลยีเป็นหลัก จึงใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาสินค้า เช็กรีวิว เปรียบเทียบราคาก่อนการตัดสินใจซื้อ รวมถึงเลือกการช็อปปิงออนไลน์เป็นช่องทางหลักในการจับจ่าย
ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน มักเลือกสนับสนุนแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
เน้นประสบการณ์มากกว่าสิ่งของ ให้คุณค่ากับประสบการณ์ที่ได้รับมากกว่าสินค้า หรือบริการ
ตัดสินใจจากรีวิวและคำแนะนำออนไลน์ ก่อนตัดสินใจซื้อ Gen Z มักค้นหารีวิวจากผู้ใช้งานจริง หรืออินฟลูเอนเซอร์ที่น่าเชื่อถือ ซึ่งมีอิทธิพลมากกว่าการตลาดจากแบรนด์โดยตรง
ชอบความรวดเร็วและความสะดวกสบาย ในยุคที่ทุกอย่างต้องทันใจ Gen Z คาดหวังบริการที่รวดเร็ว เช่น การจัดส่งสินค้าภายในวันเดียว (Same Day Delivery) และการตอบสนองทันทีผ่านแชตบอต หรือแพลตฟอร์มออนไลน์

แนวทางการตลาดที่เหมาะสมกับ Gen Z

จากพฤติกรรมและลักษณะเฉพาะของ Gen Z ที่กล่าวมา ทำให้เห็นว่าการทำการตลาดกับกลุ่มผู้บริโภคเหล่านี้ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ทำให้แบรนด์จำเป็นต้องสร้างสรรค์กลยุทธ์ทางการตลาดที่แตกต่างจากเดิม เพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างความผูกพันกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมกับการเข้าถึงกลุ่ม Gen Z ดังนี้

1. สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา

การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ถือเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึง Gen Z ด้วยลักษณะเฉพาะของคนกลุ่มนี้ที่ชื่นชอบความกระชับและความรวดเร็วในการรับข้อมูล การใช้ภาษาที่เรียบง่าย ตรงประเด็น และสอดคล้องกับวิถีชีวิตประจำวันจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้น ควรนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบที่กระชับ โดยเฉพาะการใช้สื่อวิดีโอสั้น อย่าง TikTok หรือ Instagram Reels ซึ่งกำลังได้รับความนิยม นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์เฉพาะทางที่อาจทำให้เกิดความสับสน หรือเข้าใจยาก

การศึกษาข้อมูลจาก Influencer คืออีกหนึ่งลักษณะคน Gen Z

2. เลือกใช้ Influencer ที่เหมาะสม

การเลือกใช้ Influencer ที่เหมาะสมมีบทบาทสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่แบรนด์ การร่วมงานกับ Micro-Influencer ที่มีฐานผู้ติดตามที่ชัดเจนและมี Engagement สูงสามารถช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกลุ่ม Gen Z ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจาก Gen Z มักค้นหาข้อมูลและทำการเปรียบเทียบรีวิวก่อนตัดสินใจอยู่แล้ว จึงควรทำการตลาดโดยเลือก Influencer ที่มีภาพลักษณ์สอดคล้องกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย พร้อมสร้างสรรค์เนื้อหาที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เน้นการขายสินค้าจนเกินไป

3. เชื่อมต่อกับลูกค้าผ่านเรื่องราว

เนื่องจาก Gen Z ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและต้องการทราบเรื่องราวเบื้องหลังของแบรนด์ การแบ่งปันกระบวนการผลิต แรงบันดาลใจ รวมถึงการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของแบรนด์ จะช่วยสร้างความผูกพันกับกลุ่มเป้าหมายในเจเนอเรชันนี้ได้เป็นอย่างดี โดยการใช้เทคนิค Storytelling ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้แบรนด์สามารถสื่อสารคุณค่าและสร้างความประทับใจต่อ Gen Z ได้อย่างมาก

มอบประสบการณ์การซื้อสินค้าที่น่าประทับใจ

Gen Z คุ้นเคยกับเทคโนโลยีและคาดหวังความสะดวกสบายในการใช้งาน ดังนั้น การออกแบบแพลตฟอร์มให้ใช้งานง่าย โดยเฉพาะบนมือถือ รวมถึงการให้บริการจัดส่งที่รวดเร็วและการตอบสนองต่อคำถามหรือปัญหาอย่างทันท่วงทีผ่านช่องทางออนไลน์ จะช่วยสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ากลุ่มนี้ นอกจากนี้ การสร้างประสบการณ์แบบ Omnichannel ที่เชื่อมโยงทุกช่องทางการขายเข้าด้วยกัน จะช่วยให้การซื้อสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

Scale Up ช่วยดูแลบริการเก็บแพ็กส่งสินค้าให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ทันใจ Gen Z !

เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจด้วยการส่งของที่รวดเร็ว ตอบโจทย์พฤติกรรมของ Gen Z ด้วยบริการแพ็กสินค้าออนไลน์ หรือบริการเก็บแพ็กส่งสินค้า จาก Scale Up ที่พร้อมให้บริการด้านการจัดการคลังสินค้าและการจัดส่งอย่างครบวงจร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการและผู้บริโภคยุคใหม่ ด้วยประสบการณ์การให้บริการมาอย่างยาวนาน Scale Up จึงเข้าใจถึงความสำคัญของการจัดการสินค้าและการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างดี โดยได้พัฒนาระบบการจัดการที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรับสินค้าเข้าคลัง การจัดเก็บ การแพ็กสินค้า ไปจนถึงการจัดส่งถึงมือลูกค้า เพื่ออำนวยความสะดวก ดังนี้

ประหยัดเวลาและต้นทุนในการบริหารจัดการคลังสินค้า
ลดความผิดพลาดในการจัดส่งด้วยระบบตรวจสอบที่แม่นยำ
ติดตามสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์ผ่านระบบออนไลน์
มั่นใจได้ในคุณภาพการแพ็กสินค้าที่ได้มาตรฐาน
เพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้าด้วยการจัดส่งที่รวดเร็วและตรงเวลา

Scale Up มอบประสบการณ์การจัดการสินค้าและการจัดส่งที่เหนือระดับ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายุค Gen Z อย่างแท้จริง ! Scale Up พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคง ติดต่อเราวันนี้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง LINE ID : https://lin.ee/HPXeKAo หรือโทร. 098 991 9356

ข้อมูลอ้างอิง:

Gen-Z 101: A Marketing Guide To Connecting With The Next Generation Of Consumers. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 จาก https://www.forbes.com/sites/garydrenik/2023/07/13/gen-z-101-a-marketing-guide-to-connecting-with-the-next-generation-of-consumers/

Scale Up Fulfilment Profile

Scale Up ผู้นำด้านบริการ Fulfilment ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่ดูแลครอบคลุมทุกความต้องการด้านคลังสินค้าสำหรับธุรกิจ E-commerce ทั้งระบบ OMS (Order Management System) ระบบ WMS (Warehouse Management System) และอีกมากมาย ด้วยบริการครบวงจรที่ตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ รวมถึงผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจและจัดการออร์เดอร์ เพื่อเสริมยอดขาย พร้อมดูแลร้านค้าออนไลน์ให้ธุรกิจเติบโต

บทความอื่นๆ

วิธีเพิ่มยอดขาย Shopee และ Lazada ทำง่าย เห็นผลจริง

การขายของบนออนไลน์มาร์เกตเพลซอย่าง Shoppee หรือ Lazada เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยหรือแม้แต่แบรนด์ใหญ่ ๆ ต่างก็ลงมาร่วมแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาดนี้ ดังนั้น การที่ร้านค้าจะสามารถอยู่รอดและสร้างยอดขายได้ท่ามกลางสงครามการขายที่ดุเดือดจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากหากมีเทคนิคต่าง ๆ มาดึงดูดความสนใจลูกค้า ซึ่งเรามีไอเดียในการกระตุ้นยอดขายมาแนะนำกัน การขายของใน Shopee และ Lazada ดีอย่างไร ? การขายของบนแพลตฟอร์มอย่าง Shopee และ Lazada มีข้อดีมากมายที่ผู้ประกอบการรายย่อยจนถึงรายใหญ่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้ ไม่ต้องมีเว็บไซต์เอง ข้อดีประการแรกคือ สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ทันที โดยไม่ต้องลงทุนสร้างเว็บไซต์ หรือจ้างคนพัฒนาระบบขายของออนไลน์ เพียงแค่สมัครสมาชิกไม่กี่ขั้นตอน ก็สามารถเปิดร้านค้าได้แล้ว เข้าถึงลูกค้าได้เป็นล้านคนต่อวัน ด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่มหาศาลบนออนไลน์มาร์เกตเพลซ ทำให้แม้จะเป็นร้านค้าใหม่ก็มีโอกาสเข้าถึงลูกค้าฐานใหญ่ได้ทันที ไม่ต้องรอสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ก่อน มีระบบชำระเงินและขนส่งครบวงจร อีกหนึ่งข้อดีของการขายของใน Shopee และ Lazada คือไม่ต้องกังวลเรื่องการรับชำระเงิน หรือการจัดส่งสินค้า เพราะแพลตฟอร์มมีระบบที่ครบครันและน่าเชื่อถือ มีเครื่องมือส่งเสริมการขายให้ใช้ฟรีหรือราคาประหยัด แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ มักมาพร้อมเครื่องมือส่งเสริมการขายที่ใช้งานง่าย ตั้งแต่ระบบคูปอง การทำ Flash Sale ไปจนถึงการโฆษณาสินค้า ซึ่งช่วยให้ร้านค้าเล็ก ๆ […]

คู่มือ Shopee Affiliate แบบครบจบ พร้อมประโยชน์ที่มีต่อธุรกิจ

การทำงานออนไลน์ ปัจจุบันกลายเป็นทางเลือกหลักของใครหลายคน และยิ่งทำให้การมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริมจากที่บ้านได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ธุรกิจต่าง ๆ ก็เร่งหาช่องทางใหม่ในการขยายยอดขายให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยสถานการณ์เหล่านี้ ทำให้หนึ่งในเครื่องมือที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ที่ต้องการสร้างรายได้และเจ้าของธุรกิจ คือ Shopee Affiliate Program ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างรายได้จากการแนะนำสินค้า และเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดที่ช่วยส่งเสริมยอดขายของแบรนด์โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนโฆษณาจำนวนมาก Shopee Affiliate คืออะไร ? Shopee Affiliate เป็นระบบพันธมิตรการขายที่เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถแนะนำสินค้าบนแพลตฟอร์ม Shopee ผ่านการแชร์ลิงก์ และรับค่าคอมมิชชันเมื่อมีการสั่งซื้อเกิดขึ้น ผู้เข้าร่วมโปรแกรมสามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income โดยไม่จำเป็นต้องมีสินค้าเป็นของตนเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรายได้เสริมอย่างยั่งยืนหรือสร้างธุรกิจออนไลน์ของตัวเอง ระบบนี้ทำงานโดยการให้ Affiliate หรือนายหน้าออนไลน์แชร์ลิงก์พิเศษที่มี Code เฉพาะตัว เมื่อลูกค้าคลิกลิงก์และทำการสั่งซื้อสินค้า Affiliate จะได้รับค่าคอมมิชชันเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย วิธีการนี้จึง Win-Win สำหรับทุกฝ่ายแบบ 3 ต่อ โดย Shopee ได้ยอดขาย, ร้านค้าได้ลูกค้าใหม่, และผู้ที่เป็น Shopee Affiliate ก็มีรายได้จากการแนะนำ วิธีสมัคร Affiliate Shopee เงื่อนไขการสมัคร […]

เปิดร้านขายของบน Lazada ทำยังไง ? คู่มือและค่าใช้จ่ายควรรู้

ใครว่าขายของใน Lazada ยาก ? จริง ๆ แล้วไม่ยากเลยถ้ารู้วิธี ! หลายคนอยากเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์แต่ลังเล เพราะไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอย่างไร กลัวค่าใช้จ่ายสูง หรือกังวลว่าจะขายไม่ได้ ความจริงแล้ว การขายของบน Lazada ไม่ซับซ้อน หากคุณมีความเข้าใจที่ถูกต้องในแต่ละขั้นตอน รวมถึงรู้วิธีบริหารจัดการต้นทุนและคำสั่งซื้ออย่างมีประสิทธิภาพ Lazada คืออะไร ? ทำไมมือใหม่ควรเริ่มที่นี่ Lazada เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่มีฐานลูกค้าใหญ่และมีระบบสนับสนุนผู้ขายอย่างครบวงจร โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน จุดเด่นของการขายบน Lazada ได้แก่ เตรียมตัวก่อนเปิดร้านขายของใน Lazada : ต้องมีอะไรบ้าง? รายการเอกสารที่ต้องใช้ เตรียมสินค้าอย่างไร ? เงินทุนขั้นต่ำเท่าไร ? เริ่มได้ตั้งแต่งบไม่กี่พันบาท ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าและจำนวนสต๊อกที่ต้องการ สำหรับมือใหม่แนะนำให้เริ่มด้วยสินค้า 10-20 ชิ้น เพื่อทดสอบตลาดก่อน จากนั้นค่อยขยายเมื่อมีความมั่นใจมากขึ้น วิธีสมัครเปิดร้านบน Lazada ภายใน 30 นาที เคล็ดลับ : ทำอย่างไรให้ผ่านการอนุมัติเร็ว ตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วนและชัดเจน ตั้งค่าข้อมูลร้านค้าให้ดูน่าเชื่อถือ เขียนคำอธิบายร้านค้าอย่างละเอียด […]